จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย



จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

    จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถือกำเนิดจาก "โรงเรียนสำหรับฝึกหัดวิชาข้าราชการฝ่ายพลเรือน" ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2442 ณ ตึกยาว ข้างประตูพิมานชัยศรี ในพระบรมมหาราชวัง และเปลี่ยนชื่อเป็น "โรงเรียนมหาดเล็ก" ในปี 2445 จนกระทั่งปี 2453 ในรัชกาลพระบามสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โรงเรียนมหาดเล็กได้รับการสถาปนาเป็นสถาบันอุดมศึกษา ใช้ชื่อว่า "โรงเรียนข้าราชการพลเรือน" ของพระบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก่อนจะได้รับการสถาปนาอีกครั้งในปี 2459 เป็น "จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" นับเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย

   คำว่า "จุฬาลงกรณ์" หมายถึง เครื่องประดับศีรษะหรือจุลมงกุฎ ซึ่งจุลมงกุฎนี้ยังมีความเกี่ยวโยงถึงพระนามาภิไธยเดิมของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คือสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ามงกุฎฯ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีความเกี่ยวพันถึงพระปรมาภิไธยในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีความหมายว่า "พระจอมเกล้าน้อย" อีกด้ว

    จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ขอพระราชทานเพลงประจำมหาวิทยาลัยจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถูมิพลอดุลยเดชฯ ซึ่งได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานเพลงชื่อ "เพลงมหาจุฬาลงกรณ์"

    เขตมหาวิทยาลัยจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ จุฬาฯ ใหญ่ ฝั่งหอประชุมด้านที่มีทางออกถนนอังรีดูนังต์ ไปถึงฝั่งตรงกันข้ามโรงเรียนเตรียมอุดม ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลจุฬาฯ และเป็นที่ตั้งของคณะแพทย์ศาสตร์และพยาบาล และจุฬาฯ ฝั่งศูนย์กีฬา หรือที่รู้จักกันว่าฝั่งนิเทศ หรือฝั่งสาธิตจุฬาฯ โดยมีถนนพญาไทขั้นกลางและมีอุโมงค์ใต้ดินเชื่อมระหว่างคณะวิทย์และนิเทศ และมีสะพานลอยให้นักศึกษาข้ามไปมาอย่างสะดวกสบาย

สัญลักษณ์
"พระเกี้ยว" เป็นศิราภรณ์ประดับพระเกศาหรือพระเศียรของพระราชโอรสและพระราชธิดาของพระมหากษัตริย์ คำว่า "เกี้ยว" ถ้าเป็นคำนามแปลว่า เครื่องประดับศีรษะหรือเครื่องสวมจุก ถ้าเป็นคำกริยาแปลว่า ผูกรัดหรือพัน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ กำหนดให้พระเกี้ยวเป็นพิจิตรเลขา (สัญลักษณ์) ประจำราชกาลของพระองค์ เมื่อตั้งโรงเรียนฝึกหัดข้าราชการพลเรือนหรือโรงเรียนมหาดเล็ก จึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญพระเกี้ยวเป็นเครื่องหมายหน้าหมวกของนักเรียนมหาดเล็ก รวมถึงเป็นเครื่องหมายของโรงเรียน และเมื่อโรงเรียนมหาดเล็ดได้วิวัฒน์ขึ้นมาจนเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้บริการก็ได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเปลี่ยนข้อความใต้พระเกี้ยวตามชื่อซึ่งได้รับพระราชทานใหม่ตลอดมา

"สีชมพู" เป็นสีประจำพระองค์ของราชกาลที่ 5 ซึ่งมีพระบรมราชสมภพในวันอังคาร ทางมหาวิทยาลัยจึงเห็นสมควรให้อัญเชิญสีประจำพระองค์นี้ เป็นสีประจำมหาวิทยาลัยเพื่อนเป็นเกียรติและสิริมงคล

"ต้นจามจุรี" มีความผูกพันกับชาวจุฬาฯ มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเป็นมหาวิทยาลัย ด้วยวัฏจักรของจามจุรีมีความสอดคล้องกับวิถีชีวิตของชาวจุฬาฯ กล่าวคือ มีสีเขียวชอุ่มให้ความสดชื่นในช่วงภาคต้นของการศึกษา เปรียบเสมือนนิสิตปี 1 ที่ร่าเริงสดใส เมื่อเวลาผ่านไปยังภาคปลายของการศึกษา ใบและฝักจะย้ำเตือนให้นิสิตเตรียมตัวสอบปลายปี และในวันงานประเพณีต้อนรับน้องใหม่ทุกๆ ปี นิสิตรุ่นพี่จะนำใบหรือกิ่งจามจุรีเล็กๆ มาผูกริบบิ้นสีชมพูคล้องคอให้กับนิสิตใหม่ เพื่อเป็นการต้อนรับเข้าสู่อาณาจักรแห่งจามจุรีสีชมพู

มีอะไรเรียนบ้าง
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีการเรียนการสอนทั้งสิ้น 19 คณะ 3 วิทยาลัย 1 สถาบัน และ 1 สำนักวิชา แต่ที่มีหลักสูตรปริญญาตรีนั้น ได้แก่

1. คณะครุศาสตร์
หลักสูตรครุศาสตร์บัณฑิต
การศึกษานอกระบบโรงเรียน
การศึกษาปฐมวัย
ดนตรีศึกษา
ธุรกิจศึกษา
ประถมศึกษา
มัธยมศึกษา
ศิลปศึกษา

2. คณะจิตวิทยา
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต
จิตวิทยา

3. คณะทันตแพทยศาสตร์
หลักสูตรทันตแพทย์ศาสตรบัณฑิต
ทันตแพทย์ศาสตร์

4. คณะนิติศาสตร์
หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต

5. คณะนิเทศศาสตร์
หลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต
การกระจายเสียง
การประชาสัมพันธ์
การภาพยนตร์และภาพนิ่ง
การโฆษณา
วาทวิทยา
วารสารสนเทศ
สื่อสารการแสดง
การจัดการสื่อสาร

6. คณะพยาบาลศาสตร์
(ไม่มีหลักสูตรปริญญาตรี)

7. คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
หลักสูตรบริการธุรกิจบัณฑิต
การจัดการ
การจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ
การตลาด
การธนาคารและการเงิน
การบัญชี
ระบบสารสนเทศทางการจัดการ
การจัดการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ
หลักสูตรบัญชีบัณฑิต
การบัญชี
หลักสูตรสถิติศาสตรบัณฑิต
ประกันภัย
สถิติคณิตศาสตร์
สถิติประยุกต์
เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อธุรกิจ

8. คณะแพทยศาสตร์
หลักสูตรแพทย์ศาสตรบัณฑิต
แพทยศาสตร์

9. คณะเภสัชศาสตร์
หลักสูตรเภสัชบริบาลศาสตรบัณฑิต
เภสัชบริบาลศาสตร์
หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต
เภสัชศาสตร์

10. คณะรัฐศาสตร์
หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต
การปกครอง
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
รัฐประศาสนศาสตร์
สังคมวิทยาและมนุษยวิทยา
สังคมวิทยาและมานุษยวิทยา

11. คณะวิทยาศาสตร์
หลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิต
คณิตศาสตร์
จุลชีววิทยา
ชีววิทยา
ชีวเคมี
ธรณีวิทยา
พฤกษาศาสตร์
พันธุศาสตร์
ฟิสิกส์
วัสดุศาสตร์
วิทยาการคอมพิวเตอร์
วิทยาศาสตร์ทั่วไป
วิทยาศาสตร์ทางทะเล
วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม
สัตววิทยา
เคมี
เคมีประยุกต์
เคมีวิศวกรรม
เทคโนโลยีทางภาพและการพิมพ์
เทคโนโลยีทางอาหาร

12. คณะวิศวกรรมศาสตร์
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต
- การพัฒนาซอฟท์แวร์
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต

Advertisement

วิศวกรรมคอมพิวเตอร์
วิศวกรรมทรัพยากรธรณี
วิศวกรรมปิโตรเลียม
วิศวกรรมยานยนต์
วิศวกรรมสำรวจ
วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม
วิศวกรรมเคมี
วิศวกรรมเครื่องกล
วิศวกรรมเรือ
วิศวกรรมโยธา
วิศวกรรมโลหการและวัสดุ
วิศวกรรมไฟฟ้า
วิศวกรรมอุตสาหการ
วิศวกรรมการออกแบบและการผลิตยานยนต์
วิศวกรรมนาโน
วิศวกรรมอากาศยาน
วิศวกรรมสารสนเทศและการสื่อสาร

13. คณะศิลปกรรมศาสตร์
หลักสูตรศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต
ดุริยางคศิลป์
ทัศนศิลป์
นฤมิตศิลป์
นาฏยศิลป์

14. คณะเศรษฐศาสตร์
หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต
เศรษฐศาสตร์
เศรษฐศาสตร์ธุรกิจและการจัดการ
เศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ
เศรษฐศาสตร์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ
เศรษฐศาสตร์การเงิน
เศรษฐศาสตร์การเกษตรและธุรกิจการเกษตร
เศรษฐศาสตร์ทฤษฎี
เศรษฐศาสตร์ปริมาณวิเคราะห์
เศรษฐศาสตร์พัฒนาการ
เศรษฐศาสตร์แรงงานและทรัพยากรมนุษย์
เศรษฐศาสตร์สาธารณะ

15. คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
หลักสูตรการออกแบบอุตสาหกรรมบัณฑิต
การออกแบบอุตสาหกรรม
หลักสูตรภูมิสถาปัตยกรรมศาสตรบัณฑิต
ภูมิสถาปัตยกรรม
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต
สถาปัตยกรรม
สถาปัตยกรรมภายใน
สถาปัตยกรรมไทย
หลักสูตรการผังเมืองบัณฑิต
สถาปัตยกรรมผังเมือง

16. คณะสหเวชศาสตร์
หลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิต
กายภาพบำบัด
เทคนิคการแพทย์
โภชนาการอาหารและการกำหนดอาหาร

17. คณะสัตวแพทย์
หลักสูตรสัตวแพทยศาสตร์บัณฑิต
สัตวแพทยศาสตร์

18. คณะอักษรศาสตร์
หลักสูตรอักษรศาสตรบัณฑิต
ประวัติศาสตร์
ปรัชญา
ภาษาจีน
ภาษาบาลีและสันสกฤต
ภาษาฝรั่งเศส
ภาษาสเปน
ภาษาอังกฤษ
ภาษาอิตาเลียน
ภาษาเยอรมัน
ภูมิศาสตร์
ศิลปะการละคร
สารนิเทศศึกษา
ภาษาญี่ปุ่น
ภาษาไทย
International Programme
ภาษาและวัฒนธรรม

19. บัณฑิตวิทยาลัย

20. วิทยาลัยการสาธารณะสุข
(ไม่มีหลักสูตรปริญญาตรี)

21. วิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี
(ไม่มีหลักสูตรปริญญาตรี)

22. วิทยาลัยประชากรศาสตร์
(ไม่มีหลักสูตรปริญญาตรี)

23. สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ
(ไม่มีหลักสูตรปริญญาตรี)

24. สำนักวิชาวิทยาศาสตรการกีฬา
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต
- วิทยาศาสตร์การกีฬา



ความคิดเห็น